'ฮิโรโกะ ยามากิชิ' คุณครูอูมามิ สาวญี่ปุ่นหัวใจไทย




การเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหารชิ้นนี้ ทำให้คนไทยรู้จักเธอในชื่อ 'ครูอูมามิ'มากขึ้น หากมองผิวเผิน เธอก็คงไม่ต่างจากนางแบบญี่ปุ่นทั่วไป ที่เข้ามาเพื่อมีผลงานในวงการบันเทิงบ้านเรา แต่หากได้ทำความรู้จักตัวตนของเธอจริงๆ เชื่อได้เลยว่า หลายคนจะต้องตกหลุมรักในความน่ารักสดใสและความเป็นมิตรของเธอ แถมยังเป็นคนมีจิตอาสาอย่างเต็มเปี่ยม เรียกว่ามาอยู่เมืองไทยครั้งแรกก็มาเพราะงานอาสาโดยตรง ซึ่งขัดกับบุคลิกคิกขุอาโนเนะของเธอไปมากโข


 ตัวจริงของฮิโรโกะไม่ได้ดูภูมิฐานหรือมีมาดขรึมอย่างในโฆษณา แต่เป็นสาวหน้าใส น้ำเสียงน่ารัก ดูอ่อนเยาว์กว่าในจอหลายเท่า แถมยังมีหัวใจแห่งความเป็นไทยอย่างล้นเหลือ ซึ่งเธอเล่าพร้อมรอยยิ้มว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอหลงรักเมืองไทย ก็คือการทำงานเป็นอาสาสมัครโดยมีแรงบันดาลใจจาก 1 วันในห้องเรียนเท่านั้น




ก่อนหน้านี้รู้จักเมืองไทยมาก่อนหรือเปล่า


 สมัยที่ฮิโรโกะเรียนไฮสคูล มีคนที่เคยทำงานเป็นอาสาที่ BANROMSAI มา Speechที่โรงเรียนค่ะ เลยได้รู้จักกับมูลนิธิ BANROMSAI หลังจากนั้นก็มีแรงบันดาลใจอยากมาทำงานอาสาสมัครที่นั่นบ้าง ก็เริ่มหาข้อมูลเพิ่มเติมและเก็บเงินเอง เดินทางมาเมืองไทยเอง แต่ตอนที่บอกที่บ้านว่าจะมา พ่อโกรธมาก บอกว่าตัดพ่อตัดลูกเลย แต่ฮิโรโกะก็มา (หัวเราะ) คือครอบครัวไม่ค่อยสนิทกัน พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยนานมาก ตั้งแต่ฮิโรโกะอายุ 6 ปี พ่อเป็นคนดุมากๆ ด้วย โดนตีบ่อยจนกลัวพ่อมากๆ คุยกันไม่ไหว เพราะกลัวค่ะ ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ฮิโรโกะมาเมืองไทยครั้งแรกตอนอายุ 19 ปี เรียนจบ ม.6 แล้วค่อยมาค่ะ




อยู่เมืองไทยมากี่ปีแล้ว


 ประมาณ 3 ปีกว่า ครั้งแรกมาไทยเมื่อปี 2004 มาเป็นอาสาสมัครที่บ้านเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อ HIV (BANROMSAI) อยู่เชียงใหม่ 6 เดือน แล้วก็กลับไปญี่ปุ่นเรียนต่อและทำงานต่อ มาอีกครั้ง ปี 2005 ก็มาเป็นอาสาอีกที่วัดพระบาทน้ำพุ และก็เรียนฝึกช้างที่ลำปาง ครั้งที่ 2 ที่มา ไม่ได้ตั้งใจทำอาสาสมัครอย่างเดียว อยากเรียนนวดด้วย เรียนฝึกช้างด้วย ทำงานอาสาด้วย จากนั้นก็มาอีกครั้งที่ 3 แต่ครั้งนี้มาเรียนคอร์สภาษาโทเฟล-ไอเอล เพราะตอนนั้นฮิโรโกะอยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ แต่มาคิดๆ ดูถ้าไปเรียนกับเจ้าของภาษาโดยตรงมันก็แพงใช่มั้ยคะ ทำให้อยู่ได้ไม่นาน ก็เลยตัดสินใจว่าทำงานที่ญี่ปุ่นสักพักเพื่อเก็บเงินมาเรียนที่ไทยดีกว่า เราไม่ต้องขอเงินจากพ่อแม่ด้วย ก็เรียนอยู่  8 เดือน


 พอเรียนคอร์สภาษาจบก็กลับญี่ปุ่นอีก ตอนนั้นจบ ม.6 ก็อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัย อยู่ในช่วงที่ตัดสินใจว่าจะเรียนต่อที่ไหนดี ตอนแรกๆ อยากไปประเทศเจ้าของภาษา อย่าง อเมริกา แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย แต่ไปๆ มาๆ ก็ตัดสินใจมาเรียนที่เมืองไทยดีกว่า แล้วเลือกเป็นหลักสูตรอินเตอร์ จะได้ไม่ลืมภาษาไทยด้วย




สรุปว่าตอนนี้พูดได้ 4 ภาษา


 ค่ะ แต่ภาษาเกาหลีพูดได้นิดหน่อย เคยมีเพื่อนเกาหลีตั้งแต่สมัยอยู่จูเนียร์ไฮสคูลด้วยค่ะ ภาษาไทยเรียกว่า ม.ต้น  ใช่มั้ยคะ ส่วนที่เรียนตอนนี้คือหลักสูตรปริญญาตรี อินเตอร์ Business English Communication (โครงการ BEC) คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ค่ะ ก็คือ เข้ามหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นแล้วครั้งหนึ่งแต่ลาออก เลยยังไม่จบปริญญาตรี พอย้ายมาเรียนที่นี่จริงๆ Transfer (เทียบโอน หน่วยกิต) ได้ แต่ที่โน่นไม่ใช่ภาษาอังกฤษก็เลยคิดว่าลงเรียนใหม่เลยดีกว่า แล้วตอนนี้ที่มหาวิทยาลัยน้ำท่วมอยู่ ก็เลยไม่มีอะไรทำ (หัวเราะ) ส่วนภาษาไทย เมื่อก่อนพูดได้แค่ สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ ฮิโรโกะค่ะ แต่พอมาเมืองไทยครั้งแรกได้ไปเรียนที่เชียงใหม่ เป็นคอร์สภาษาไทยหลักสูตร 20-30 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็อ่านหนังสือเอง ดูทีวีรายการภาษาไทย และพยายามพูดไทยกับคนไทยให้ มากที่สุดเท่าที่จะทำได้






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กฎและข้อตกลง
x ไม่อนุญาติให้โพสโฆษณา หรือคอมเม้นเชิงโปรโมทเว็บไซส์,สินค้า หรือการบริการต่างๆในบล็อกนี้ หากต้องการลงโฆษณากับทางบล็อก กรุณาติดต่อที่หน้า contact โดยตรง
x ไม่คอมเม้นเสียดสี เหยียดผู้อื่นให้เกิดความเสียหาย
x ไม่คอมเม้นด้วยคำที่ไม่สุภาพ
x หากไม่ปฏิบัติตามจะทำการลบคอมเม้นโดยทันที